เมื่อเราทำรายรับ รายจ่าย รู้ว่าใช้เกินไปเท่าไหร่ มีกี่ที่ ต่อจากนี้คือการหักดิบแล้ว ให้หยุดการเป็นหนี้เพิ่ม หยุดกู้ไม่ว่าเหตุผล หรือมีข้อเสนอนั้นจะงามเพียงใด เราไม่ใช่นักสู้ชีวิต แบบ 100/10 โอกาสสำเร็จมันมีอยู่แล้วแต่จะมีสักกี่คนที่ทำได้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ ???คือนำเงินไปต่อเงิน สร้างธุรกิจต่างๆ นานา ช่องทางธุรกิจ เพื่อหวังให้เงินทำงานแทนคุณ ตามหนังสือที่วางขาย อันมีถ้อยคำอันสวยหรูต่างๆ อันนี้ต้องกราบขอโทษด้วยถ้ากราบพาดพิงไป ทางลัดมันไม่มีหรอกครับ ถ้าไม่ถูกหวยไปเสียก่อน !! แต่เราตั้งใจจะปลดหนี้จริงๆ อย่างอื่นใย ต้องไปสนใจอะไรอีก
แนวทางแรก คือ หาของที่พอขายได้ อะไรก็ได้ที่อยู่ในบ้านไม่ได้ใช้ หรือไม่จำเป็นอะไร ที่ใช้ทุกวันก็อย่าไปขายมัน นำไปแลกเป็นเงินให้หมด ไม่ต้องไปเสียดาย ว่ารุ่นนั้นแพง หายาก หรือเหตุผลอะไรก็ตาม เช่น พระเครื่อง เสื้อผ้าแบรนด์ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่รู้ซื้อมาทำไมเพราะนานๆใช้ที
แนวทางที่สอง คือ ลดรายจ่าย ค่าใช้จ่าย ไม่กินฟุ่มเฟือย บอกตัวเองไปเลยว่าจะประหยัด อันไหนที่เคยไปอันไหนเคยเที่ยวก็งดซะ ตั้งงบรายวันไปเลยว่าจะใช้วันเท่าไหร่แค่พออยู่ได้ และเหลือเท่าไหร่
แนวทางสาม คือ หารายได้เสริม เช่น เอาแรงไปแลกเงิน ทำโอทีเพิ่ม ขายของออนไลน์แบบแบ่งเปอร์เซนต์การขาย รับของมาขาย อะไรก็ได้ที่ทำแล้วได้กำไรบวกอย่างเดียว โดยไม่ต้องลงทุน หรือลงทุนน้อย
แนวทางที่สี่ คือ ไปคุยกับสถาบันการเงิน ของปรานอม หนี้ ขอจ่ายน้อยลง หรือเลทกว่าเดิม อย่าอายที่จะคุยครับ ใช่ว่าเราจะหนีซะที่ไหน แค่เราขอเวลายืดออกไปอีก เพื่อ การจ่ายที่ครอบคลุม ไม่ขาดจนเกินไป เพราะสถาบันการเงินส่วนใหญ่บังคับให้จ่ายต้นเดือน เราจะจ่ายเขาไม่ทันเพียงสี่แนวทางบุกนี้ อาจยังไม่พอแต่ก็พอประทังไปได้ ช่วยเหลือรายรับ ทั้งเงินเดือน หรือรายได้อื่นๆไปได้ หลักสำคัญ ที่ผมจะเน้น จริงๆนะครับ คือ คุณอย่าไปกู้เพิ่มเด็ดขาด
@@แต่ก็ไม่แนะนำไป ปิดบัตรเครดิต นะครับ เพราะบัตรเครดิตมันสร้างขั้นมาเพื่อเป็นเงินยามฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น เพราะเราไม่รู้ต้องใช้เงิน เมื่อไหร่@@
และสุดท้ายอย่าท้อ จงมีวินัยในการชำระ สุดท้ายจุดจบของหรือ เราจะได้รับชัยชนะ อันเด็ดขาดแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น